ขับเคลื่อนโดย Blogger.
RSS

กลูตาไธโอนคืออะไร

     กลูตาไธโอน (อังกฤษ: glutathione) เป็นยารักษาโรคเกี่ยวกับระบบประสาท ระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย ปกติแพทย์จะใช้ในปริมาณเพียง 200 มิลลิกรัมต่อครั้ง มีกลุ่มคลินิกเสริมความงาม เป็นสารอ้างว่าใช้ผสมกับวิตามินซี ฉีดทำดีท็อกซ์ผิวขาว[2]

     กลูตาไธโอน เป็น tripeptides ของกรดอะมิโน 3 ตัว คือ ซิสทีน (cysteine), กรดกลูตามิค (glutamic acid) และไกลซีน (glycine) ซึ่งร่างกายสามารถผลิตได้เองตามธรรมชาติ และมีในอาหาร เช่น นม ไข่ ผลอะโวคาโด สตรอเบอร์รี มะเขือเทศ ผักบรอคโคลี ส้มเกรปฟรุต และผักโขม [3]

     กลูตาไธโอนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระจึงช่วยชะลอความเสื่อมของร่างกาย ช่วยให้ตับขจัดสารพิษออกจากร่างกาย และยังนำมารักษาโรคมะเร็ง โรคหัวใจ ข้ออักเสบ โรคพาร์กินสัน โรคตับ โรคไต โรคเอดส์ ภาวะเป็นหมันในเพศชาย และภาวะหูตึงจากเสียงดัง ผลข้างเคียงทำให้ผิวขาว

Glutathione กลูต้า (กลูต้าไธโอน) เป็นสารประเภท Tripeptide ที่ประกอบด้วยกรดอะมิโน 3 ชนิด ได้แก่ Cysteine, Glycine และ Glutamic acid หน้าที่หลักของสารตัวนี่ที่เด่นมีอยู่ 3 ประการ คือ

1. Detoxification : กลูต้าไทโอนช่วยสร้างเอ็นไซม์ชนิดต่าง ๆ ในร่างกายโดยเฉพาะ Glutathion-S-transferase ที่ช่วยในการกำจัดพิษออกจากร่างกายโดยไปเปลี่ยนสารพิษชนิดไม่ละลายในน้ำ (ละลายในน้ำมัน) เช่น พวกโลหะหนัก สารระเหย ยาฆ่าแมลง แม้แต่ยาบางชนิด ให้เป็นสารที่ละลายน้ำได้ดีขึ้นและง่ายต่อการกำจัดออกจากร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันตับ1 จากการถูกทำลายโดย แอลกอฮอล์ (สุรา) สารพิษจากบุหรี่ ยาพาราเซตามอลเกินขนาด (Overdose) ฯลฯ

2. Antioxidant : กลูต้าไทโอนมีคุณสมบัติเป็นสารต้านปฏิกิริยาอ๊อกซิเดชั่น (Antioxidant) ที่มีความสำคัญตัวหนึ่งในร่างกาย และหากขาดไป วิตามินซีและอี อาจจะทำงานได้ไม่เต็มที่

3. Immune Enhancer : ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกาย2 โดยกระตุ้นการทำงานของเอ็นไซม์หลายชนิดเพื่อให้ร่างกายต่อต้านสิ่งแปลกปลอม รวมถึงเชื้อแบคทีเรียและไวรัส นอกจากนี้กลูตาไทโอน ยังช่วยสร้างและซ่อมแซม DNA สร้างโปรตีนและ protaglandin



     ในคนสุขภาพแข็งแรงตามปกติสามารถผลิต Glutathione ได้เองเพียงพออยู่แล้ว  จากโปรตีนที่มีกรดอะมิโน Glutamate, Glycine, และ Cysteine โดยมีตับเป็นที่หลักในการผลิต แต่ในภาวะเครียดหรือร่างกายอ่อนแอ จะพบว่าระดับ Glutathione ลดลง  หาก Glutathione ในร่างกายมีน้อยมากๆอาจทำให้เสียชีวิตได้  เช่น ในผู้ติดเชื้อ HIV ที่แสดงอาการ หรือคนไข้ที่กินยาพาราเซตามอลเกินขนาด  เป็นต้น

      Glutathione มีบทบาทสำคัญในการทำงานของ  melanocyte  ซึ่งเป็นเซลล์ผลิตเม็ดสี โดยควบคุมไปในทางที่ทำให้ผิวดูสดใส ไม่หมองคล้ำ  และดูขาวขึ้น  ( ยับยั้งเอนไซม์ tyrosinase ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในสร้างเม็ดสีชนิด eumelanin ที่มีสีดำหรือน้ำตาล )  ดังนั้นหากสามารถทำให้ระดับ Glutathione ในเซลล์เพิ่มขึ้นได้  ก็น่าจะทำให้ผิวดูดีสดใสขึ้นด้วยเช่นกัน

      จากคุณสมบัติดังกล่าว  ดูแล้วน่าจะทำ  Glutathione เพื่อเป็นอาหารเสริมเพื่อให้ผิวขาวใสขึ้นได้  แต่ Glutathione ไม่สามารถดูดซึมผ่านทางเดินอาหารได้ดีพอ

      อาหารเสริมที่สามารถเพิ่ม Glutathione ในเซลล์ได้จริงคือ  N – acetyl cysteine ( NAC ) ซึ่งจะถูกดูดซึมผ่านทางเดินอาหารได้ดีกว่า  แล้วจึงค่อยเปลี่ยนเป็น Glutathione ในเซลล์อีกที  นิยมกินในหมู่นักเพาะกายเพื่อช่วยเสริมสร้างพลังงานและมวลกล้ามเนื้อ มากกว่า  แต่ก็ยังไม่มีข้อพิสูจน์ใดๆที่แสดงว่ากินอาหารเสริมดังกล่าวแล้วทำให้ผิวขาว ใสขึ้นเช่นกัน  หรืออาหารเสริมง่ายๆ เช่น vitamin C 500 – 1,500 mg ทุกวันเป็นเวลา 1 เดือน ก็สามารถเพิ่มระดับ Glutathione ได้กว่า 50% เช่นกัน

      ทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่ม Glutathione ให้กับร่างกายโดยไม่ต้องการพึ่งอาหารเสริมหรือยาใดๆ คือเลือกทานอาหารที่ช่วยให้ร่างกายสร้าง Glutathione ได้มากขึ้น เช่น  หน่อไม้ฝรั่ง, บล็อกโคลี่, อโวคาโด, ผักขม ( เหมือนในการ์ตูน  pop eye กินผักขมแล้วกล้ามขึ้นมีพลัง ) ,โปรตีนหางนม ( whey protein ) , ขมิ้นชัน  เป็นต้น  และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้  Glutathione ในร่างกายต่ำลง เช่น การสูบบุหรี่ , ดื่ม alcohol มาก, พักผ่อนน้อย,  เครียด,  ตากแดดมาก, ออกกำลังกายหักโหม  ซึ่งจะทำให้  Glutathione ในร่างกายถูกใช้ต่อต้านอนุมูลอิสระมาก จน Glutathione ในเหลือน้อยลงนั่นเอง 

ที่มา: http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%98%E0%B9%82%E0%B8%AD%E0%B8%99

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น